For Work :RW
Monday, August 12, 2019
Tuesday, July 2, 2019
Netflix
หากคุณเป็นคนที่รักการรับชม ซีรีส์ต่างๆไม่ว่าจะไทย ต่างประเทศ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น อินเดีย หรือ ภาพยนตร์หลากหลายสไตล์แล้วล่ะก็ คงเคยได้ยินชื่อ Netflix กันมาบ้าง แต่ถ้าหากยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ บทความนี่จะพาคุณมาทำความรู้จักกับ Netflix บริการสตรีมมิ่งวิดิโอออนไลน์ถูกลิขสิทธิ์ ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็น สวรรค์ของคนรัก ซีรีส์ และ ภาพยนตร์ ที่คนมากมายก็นิยิมใช้บริการกัน แถมทุกวันนี้ในไทยเราก็เริ่มมีความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ มารู้จัก ความสุดยอด ความเจ๋งของมันให้มากขึ้นกันเถอะ
Netflix บริการสตรีมมิ่งออนไลน์ สุดเจ๋ง
เน็ตฟลิกซ์ ( Netflix ) คือบริษัทสัญชาติอเมรกันที่ให้บริการสตรีมมิ่งวิดิโอออนไลน์อย่างถูกกฏหมาย ถูกลิขสิทธิ์ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจาก การเริ่มให้เช่ายืม DVD , Bluray ของภาพยนตร์ ผ่านทางไปรษณีย์ ที่ถ้าหากไม่ส่งคืนก็จะไม่สามารถเช่ายืมเรื่องใหม่ได้และด้วยวิธีการนี้เองก็ทำให้ เน็ตฟลิกซ์ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้มีการปรับเปลี่ยนจาก การเช่ายืม ผ่านทางไปรษณีย์ มาเป็นการให้บริการรับชมสตรีมมิ่งวิดิโอ ภาพยนตร์ และซีรีส์ออนไลน์แทน ที่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในปีค.ศ.2010 ในฐานะผู้ให้บริการสตรีมมิ่งวิดิโอ ภาพยนตร์ และซีรีส์อย่างถูกกฏหมาย ต่อมาในปีค.ศ.2013 เน็ตฟลิกซ์ก็ได้ทำเข้าสู่อุตสาหกรรมผู้ผลิตสื่ออย่างเป็นทางการ และเป็นจุดเริ่มต้นของความโด่งดัง การเติบโตอย่างรวดเร็วของเน็ตฟลิกซ์จนถึงทุกวันนี้ นั้นก็คือการสร้างซีรีส์ออริจินัลที่ให้บริการรับชมเฉพาะผ่านทาง เน็ตฟลิกซ์ ผ่านทางออนไลน์เท่านั้นเรื่องแรก ซีรีส์เรื่อง House of Cards หลังจากนั้นมาก็มีการผลิตทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ออริจินัลเน็ตฟลิกซ์ ถึง 126 เรื่องในปี ค.ศ.126 และได้มีการผลิตอย่างต่อเนื่องอีกมากมายถึงทุกวันนี้ จากบริษัทเล็กๆที่เริ่มต้นจากการให้เช่ายืมแผ่น DVD . Bluray สู่ บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีการเปิดบริการให้รับชมสตรีมมิ่งมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลกและสร้างรายได้มากกว่า 21.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีค.ศ.2017
เน็ตฟลิกซ์ เปิดให้บริการในไทย ตั้งแต่ปีค.ศ.2016 หรือ พ.ศ.2559 ที่เริ่มแรกยังไม่มีคำบรรยายไทย เสียงพากษ์ไทยและต่อมาก็ในปีพ.ศ.2560 ก็ได้มีแฟนเพจ Netflix ของไทยอย่างเป็นทางการและเริ่มมีคำบรรยยายไทย เสียงพากษ์ไทยมากขึ้น
จ่ายแบบไหนก็คุ้ม
ความพิเศษของการสมัครสมาชิก รับชมบริการของ เน็ตฟลิกซ์ นั้นก็คือ สามารถเลือกการจ่ายให้คุ้มและเหมาะกับตัวผู้ใช้งานได้เหมาะ ไม่ว่าจะดูคนเดียว ดูกับเพื่อน ดูกับครอบครัว สามารถแชร์ค่าบริการได้สูงสุดถึง 4 คน 4 บัญชีเลยทีเดียว แถมยังเลือกแบบความคมชัดได้ด้วยว่าชอบชัดขนาดไหน รูปแบบบริการนั้นมีถึง 3 รูปแบบเลยทีเดียว
- Basic ราคา 280 บาทต่อเดือน เหมาะสำหรับรับชมคนเดียว แต่ว่าไม่รองรับภาพแบบ HD และ Ultra HD
- Standard ราคา 350 บาทต่อเดือน รองรับแบบ HD แต่ไม่รองรับแบบ Ultra HD สามารถใช้บริการได้ถึง 2 บัญชี
- Premium ราคา 420 บาทต่อเดือน รองรับแบบทั้ง HD และ Ultra HD รวมถึงสามารถใช้บริการได้ถึง 4 บัญชี รูปแบบบริการยอดนิยมที่คุ้มที่สุด
และในทุกรูปแบบบริการนั้นสามารถที่จะรับชมได้ผ่านทาง Laptop , TV , Tablet และโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย
ราคาก็ถือว่าไม่แพงมาก โดยเฉพาะ ถ้าเลือก รูปแบบบริการแบบ Premium ที่แสนจะคุ้มเพราะสามารถใช้ได้ถึง 4 คน ถ้าหารกันก็จะตกอยู่ในราคาเพียง 105 บาทต่อเดือนเท่านั้นเอง
ถ้าหากต้องการหาสมาชิกช่วยกันหารค่าบริการ Netflix แล้วล่ะก็ ต้องลองแวะมาเยี่ยมเยือนกลุ่มน่ารักแสนอบอุ่น ที่สามารถหาสมัครชิกหารได้อย่างรวดเร็วทันใจอย่าง https://www.facebook.com/groups/1736514079708395/?ref=br_rs
ความพิเศษสุดท้ายหากยังไม่แน่ใจว่าจะชอบบริการ เน็ตฟลิกซ์ หรือไม่ ทางเน็ตฟลิกซ์ ก็ใจป๋าสุดๆที่ หากสมัครสมาชิกใหม่สามารถรับสิทธิ์รับชม ใช้บริการของ เน็ตฟลิกซ์ ได้ฟรีถึง 1 เดือนฟรีๆเต็มๆไปแบบไม่กั๊กกันไปเลย หากติดใจก็ค่อยจ่ายสมัครสมาชิก
ระบบอัลกอริทึมที่เป็นเอกลักษณ์
เน็ตฟลิกซ์มีระบบ อัลกอริทึม ในการค้นหาและแนะนำซีรีส์ ภาพยนตร์ แถมยังแจ้งเตือนเราได้อีกด้วยว่าถ้า ซีรีส์ ภาพยนตร์ เรื่องไหน แนวไหน ที่ทั้งเข้ามาใหม่หรือมีอยู่ใน เน็ตฟลิกซ์ อยู่แล้วน่าจะเหมาะกับเรา ด้วยระบบที่ประเมินผลจาก ประวัติการรับชมของเราใน เน็ตฟลิกซ์ ทำให้สามารถแนะนำ ค้นหา ซีรีส์ ภาพยนตร์ สไตล์ที่เราชอบมาแนะนำได้เสมอๆ เป็นอีกความพิเศษ สุดเจ๋งที่ทำให้ได้ค้นพบซีรีส์ ภาพยนตร์ เรื่องใหม่ๆที่ถูกจริต ถูกสไตล์ สมาชิกได้เสมอ เป็นระบบที่มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก เพราะว่ามันจะไม่เฉพาะเจาะจงจนเกินไป อย่างถ้าเรารับชมภาพยนตร์แอคชั่นสักเรื่องหนึ่ง มันก็จะไม่เอาแต่แนะนำภาพยนตร์แอคชั่นให้กับเรา แต่จะประเมินผลจากภาพรวมจากประวัติรับชมของเราหลายๆเรื่อง จีงจะแนะนำซีรีส์และภาพยนตร์ให้กับเรา หรือถ้าหากเรารับชมซีรีส์ ภาพยนตร์ เรื่องใด มันก็จะสามารถแนะนำซีรีส์ ภาพยนตร์ แนวเดียวกันที่มีความคล้ายคลึงให้ได้อีกด้วย แถมยังจะแสดงเปอร์เซ็นให้ดูด้วยว่า มันคล้ายกัน Match ถึงกี่เปอร์เซ็น
ด้วยระบบนี่ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรดูอย่างแน่นอนผ่านทาง เน็ตฟลิกซ์ แถมแจ้งเตือนเวลาที่ซีรีส์เราติดตาม หรือดูกลับมาฉาย อัพเดทตอนใหม่ๆเสมอให้อีกด้วย ทำให้ไม่ลืมหาเวลากลับมาติดตามซีรีส์ที่ชอบได้อีกด้วย
ผู้บุกเบิกวลีศัพท์แสลงยุคใหม่ Netflix and Chill
ถ้าในต่างประเทศ ก็จะมีวลีคำศัพท์แสลงยุคใหม่ที่มีชื่อว่า Netflix and Chill ที่เป็นศัพท์แสลงที่นิยมอย่างมากของต่างประเทศ พร้อมกับมี Meme ต่างๆออกมามากมาย ซึ่งความหมายของมันก็คือ Code พิเศษของคู่รัก หรือคนสองคนว่าจะไปที่บ้านของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพื่อมีอะไรกัน หรือทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง Sex หรือ Hooking up นั้นเอง อ้างอิงจาก Urban Dictionary
สเน่ห์ของ Netflix Content Original ที่ไม่เหมือนใคร
นอกจากที่มีซีรีส์ และภาพยนตร์ หลากหลายสไตล์ หลากหลายประเทศ ที่มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนแล้วล่ะก็ หลังจากที่ เน็ตฟลิกซ์ ก้าวเข้าสู่ ตลาดอุตสาหกรรมในฐานะผู้ผลิต Content ผู้ผลิตสื่ออย่างเป็นทางการแล้วก็ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาตนเอง หรือการผลิต Content ที่มีคุณภาพออกมาเลย ในปีที่ผ่านมี ซีรีส์และภาพยนตร์ Original ของ เน็ตฟลิกซ์ ออกมามากกว่า 100 เรื่อง ทุ่มทุนสุดๆเพื่อให้มีคุณภาพและดีที่สุดต่อผู้ชม และในการที่ลงทุนครั้งใหญ่นี่ก็มีการแข่งขันที่โหดขึ้นอีกด้วย เพราะในจำนวนเรื่องที่สั่งสร้างมาใหม่นั้นก็ใช่ว่า ทุกเรื่องจะได้รับอนุมัติให้สร้างต่อ โดยเฉพาะซีรีส์ที่มีโดนตัดจบมากมายเนื่องจากไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนไปมากเช่นกัน
ซีรีส์และภาพยนตร์ออริจินัล เน็ตฟลิกซ์ นั้นเป็นสเน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร การันตีเรื่องความหลากหลายทางเนื้อหา คุณภาพ และโปรดักชั่นที่เรียกได้ว่าจัดเต็มมาโดยเสมอ มีการันตีคว้ารางวัลเวทียักษ์ใหญ่อย่าง Emmy , Golden Globes มาแล้วด้วย
มีผู้สมัครบริการเน็ตฟลิกซ์หลากหลายคนที่เป็นคอซีรีส์อยู่แล้ว สมัครมาเพื่อติดตามรับชมซีรีส์เรื่องโปรดของตนเองและซีรีส์ออริจินัลของ เน็ตฟลิกซ์โดยเฉพาะเลยเป็นอย่างมาก สำหรับคอซีรีส์แล้วล่ะก็การสมัคร เน็ตฟลิกซ์นี่มันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มเสียอีก
เหล่าซีรีส์ออริจินัลของ เน็ตฟลิกซ์ ที่สร้างชื่อและมีฐานผู้ติดตามมามายก็มีตั้งแต่ House of Cards , Orange is the new black , Stranger Things , 13 Reason Why , Marvel Daredevil , The Crown , Narcos และอีกหลากหลายเรื่องที่มีแฟนๆ คนติดตามรอรับชม ติดหนึบกันเป็นอย่างมาก เพราะว่า ซีรีส์เหล่านี้ถ้าอยากจะรับชมแบบถูกลิขสิทธิ์นั้นสามารถรับชมได้เฉพาะที่ เน็ตฟลิกซ์ ที่เดียวเท่านั้น แถมความพิเศษของซีรีส์ออริจินัล เน็ตฟลิกซ์ ก็คือจะไม่มีการปล่อยให้รอคอยแบบตอนต่อตอน จะปล่อยทุกตอนในวันเดียวกันเลย ปล่อยทุกตอนในแต่ละซีซั่นภายในวันเดียว นี่คือความเจ๋งสุดๆของ เน็ตฟลิกซ์ ที่ทำให้แฟนๆซีรีส์นั้นต่างตกหลุมรักเป็นอย่างมาก และมีผู้ที่หันมาสนับสนุนบริการมากขึ้นเรื่อยๆนั้นเอง
ถ้าหากคุณเป็นคนที่รักการรับชมติดตามซีรีส์ ภาพยนตร์ แล้วล่ะก็ Netflix จะเป็นเหมือนสวรรค์สำหรับคุณเลยล่ะ นั่งดู นอนดูกันไม่หมดกันเลยทีเดียว เพราะว่ามันมีมากมายนับไม่ถ้วนเลยล่ะ แถมยังสมัครสมาชิกรายเดือนได้ในราคาที่คุ้มสุดคุ้มอีก และยังมีอัพเดทซีรีส์ ภาพยนตร์ใหม่ๆในทุกๆสัปดาห์อีกด้วย บริการที่เจ๋งสุดๆแบบนี่ไม่ควรพลาดเลยล่ะ มันคือ สวรรค์ของคนที่ซีรีส์และภาพยนตร์ ที่แท้จริง
Monday, July 1, 2019
The Epic of Gilgamesh
มหากาพย์กิลกาเมช (Gilgamesh) เป็นตำนานน้ำท่วมโลกที่เก่าแก่ที่สุดในยุคของเมโสโปเตเมียโบราณ และเป็นหนึ่งในงานวรรณกรรมประเภทนิยายที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย นักวิชาการเชื่อว่ามหากาพย์เรื่องนี้มีกำเนิดมาจากตำนานกษัตริย์สุเมเรียนและบทกวีเกี่ยวกับวีรบุรุษในตำนานที่ชื่อว่า กิลกาเมช ซึ่งถูกรวบรวมเอาไว้กับบรรดาบทกวีอัคคาเดียนในยุคต่อมา
มหากาพย์กิลกาเมช ตำนานน้ำท่วมโลกเก่าแก่ที่สุดในโลก เป็นเรื่องราวการผจญภัยของวีรบุรุษนามว่า กิลกาเมช (Gilgamesh) กษัตริย์ในตำนานแห่งนครอุรุค ซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไทกริส-ยูเฟติส อารยธรรมเมโสโปเตเมีย (ประเทศอิรักปัจจุบัน) เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกิลกาเมช กับเพื่อนของเขาชื่อ เอนกิดู เนื้อหาส่วนใหญ่ในมหากาพย์เน้นย้ำถึงความรู้สึกสูญเสียของกิลกาเมช หลังจากเอนกิดูเสียชีวิต และกล่าวถึงการกลับเป็นมนุษย์อีกครั้งพร้อมกับเน้นย้ำเรื่องความเป็นอมตะ
- มหากาพย์ในต้นฉบับสุเมเรียนที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุอยู่ในช่วงราชวงศ์ที่ 3 ของอูร์ (Ur) คือระหว่าง 2150-2000 ปีก่อนคริสตกาล ส่วนฉบับอัคคาเดียนที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ในช่วงต้นๆ ของสหัสวรรษที่ 2
- มหากาพย์อัคคาเดียนฉบับ “มาตรฐาน” ประกอบด้วยแผ่นดินเหนียว 12 แผ่น ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งระหว่าง 1300-1000 ปีก่อนคริสตกาล ค้นพบอยู่ในหอจารึกของ Ashurbanipal ที่เมืองนีนะเวห์ (Nineveh) หอสมุดแห่งนี้ถูกพวกเปอร์เซียทำลายเมื่อ 612 ปีก่อนคริสตกาล และจารึกทั้งหมดก็พินาศไปด้วย
- มหากาพย์ชุดที่สมบูรณ์ที่สุดในปัจจุบันปรากฏในแผ่นดินเหนียว 12 แท่งซึ่งเก็บรักษาไว้ที่หอเก็บจารึกของกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย เมื่อราวศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล
- มหากาพย์อัคคาเดียนนี้ ถูกจารึกระบุชื่อผู้แต่งไว้ด้วย ซึ่งนับเป็นเรื่องที่แปลกมาก เนื่องจากในสมัยโบราณ แทบจะไม่มีการจารึกชื่อผู้แต่งเรื่องใด ๆ (จารึกไทยในสมัยสุโขทัยหรืออยุธยาก็ไม่มีการจารึกชื่อผู้แต่งเช่นกัน) ผู้แต่งจารึกนี้คือ ชิเนฆิอุนนินนิ (Shin-eqi-unninni) อาจกล่าวได้ว่า บุคคลผู้นี้เป็นนักเขียนที่เก่าแก่ที่สุดในโลกวรรณกรรม ที่เราสามารถระบุชื่อได้
- มหากาพย์ มีชื่อดั้งเดิมว่า ผู้มองเห็นเบื้องลึก (He who Saw the Deep) หรือผู้ยิ่งใหญ่กว่าราชันทั้งปวง (Surpassing All Other Kings)
- มีการคาดเดาว่า กิลกาเมชอาจจะเป็นผู้ปกครองที่มีตัวตนจริงในอดีตระหว่างราชวงศ์ที่ 2 ของยุคต้นของสุเมเรีย (ประมาณ 2,700 ปีก่อนคริสตกาล)
- การค้นพบวัตถุโบราณอายุประมาณ 2600 ปีก่อนคริสตกาลที่มีความเกี่ยวข้องกับ Enmebaragesi แห่ง Kish ผู้ปรากฏชื่ออยู่ในตำนานว่าเป็นบิดาของศัตรูคนหนึ่งของกิลกาเมช ทำให้มหากาพย์เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ในทางประวัติศาสตร์มากขึ้น และช่วยยืนยันว่ากิลกาเมชน่าจะมีตัวตนจริง
- มหากาพย์กิลกาเมช หลงเหลืออยู่เป็นวรรณกรรมในหลายภาษา เช่น ของชาวอัคคาเดีย (ภาษาตระกูลเซมิติค ซึ่งมีความสัมพันธ์กับภาษาฮีบรู, เป็นภาษาที่พูดกันในอาณาจักรบาบิโลน) นอกจากนี้ยังมีปรากฏบนแผ่นจารึกดินเหนียว เป็นภาษาฮูร์เรียน และภาษาฮิตไตต์ (ภาษาหนึ่งในตระกูลอินโด-ยูโรเปียน ซึ่งพูดกันในเขตรอยต่อยุโรปและเอเชีย นับเป็นหนึ่งในบรรดาภาษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก) ภาษาทั้งหมดที่พูดมานี้ จารด้วยอักษรลิ่ม หรือที่เราคุ้นเคยกันด้วยชื่อ คูเนฟอร์ม
มหากาพย์กิลกาเมช ตามตำนานได้เล่าไว้ว่า …
กิลกาเมช เป็นกษัตริย์แห่งนครอูรุก ซึ่งเป็นนครรัฐใหญ่ของชาวสุเมอร์เรียน พระองค์ทรงมีพระมารดาเป็นเทพและมีพระบิดาเป็นมนุษย์ ทำให้ทรงมีเลือดเทพอยู่ในวรกายครึ่งหนึ่ง
กิลกาเมชเป็นกษัตริย์ที่มัวเมาในเรื่องของกามารมณ์เป็นอย่างมาก พระองค์ใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการหาสาวงามมาสนองตัณหาของตัวเอง โดยไม่ละเว้นว่า หญิงสาวผู้นั้นจะเป็นสาวโสดหรือมีคู่ครองแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระองค์มักจะไปปรากฏตัวในงานแต่งงานและเรียกร้องสิทธิในการนอนกับเจ้าสาวในคืนแรกของการสมรส ซึ่งการกระทำเหล่านี้ทำให้พลเมืองชาวอูรุกพากันคับแค้นใจอย่างมาก แต่ก็มิอาจทำอะไรได้ เนื่องจากเกรงกลัวในอำนาจของกษัตริย์และสายเลือดแห่งเทพของกิลกาเมช
ด้วยเหตุนี้เอง บรรดาปวงชนผู้ทุกข์ร้อนจึงพากันไปสวดอ้อนวอนต่อเทพเจ้าให้ทรงจัดการกับกิลกาเมช และเมื่อเสียงสวดอ้อนวอนของประชาชนไปถึงสวรรค์ เหล่าเทพเจ้าจึงลงมติที่จะต้องจัดการกับมนุษย์ครึ่งเทพผู้นี้ โดยเหล่าเทพได้ให้เทพีอารารูปั้นดินเหนียวเป็นรูปบุรุษผู้หนึ่งและให้นามว่า เอ็นคิดู โดยเทพเจ้าได้นำความป่าเถื่อนของสัตว์ป่า 12 ชนิดใส่ลงไปในตัวของเขา เพื่อให้เขาทรงพลังพอที่จะจัดการกับกิลกาเมชได้
เอ็นคิดูมีร่างกายท่อนบนเป็นชายหนุ่มรูปร่างกำยำสูงใหญ่ขณะที่ขาทั้งสองข้างนั้นเป็นขาของวัวกระทิง ส่วนบนศีรษะยังมีเขากระทิงงอกออกมาอีกด้วย เหล่าเทพได้ส่งเอ็นคิดูลงมาอยู่กับบรรดาสัตว์ป่าในป่านอกเมืองอูรุก ซึ่งเอ็นคิดูได้ใช้พลังของตนปกป้องสัตว์เหล่านั้นจากสัตว์นักล่าและนายพราน
บรรดานายพรานต่างไม่พอใจที่มีผู้มาขัดขวางการล่าสัตว์ ทว่าเมื่อพวกเขาได้พบกับเอ็นคิดูแล้ว ก็เกิดความพรั่นพรึงในตัวของมนุษย์ครึ่งกระทิงผู้นี้ พวกนายพรานจึงคิดหาวิธีจัดการกับเอ็นคิดู โดยพากันไปว่าจ้าง แซมฮัต ยอดหญิงนครโสเภณีประจำเทวาลัยแห่งอูรุก ให้ไปล่อลวงเอ็นคิดูออกมาจากป่าและทำให้พลังกับความป่าเถื่อนของมนุษย์ผู้นี้ลดน้อยลง
แซมฮัตใช้มารยาหญิงยั่วยวนจนเอ็นคิดูหลงในบ่วงสวาทของเธอ ทั้งคู่อยู่ร่วมกันถึงเจ็ดราตรีและการที่เอ็นคิดูมาใช้ชีวิตอยู่กับนางได้ทำให้เหล่าสัตว์ป่าที่เคยแวดล้อมเขา พากันหนีหายไป อีกทั้งพลังของเอ็นคิดูเองก็ลดน้อยลงด้วย จากนั้นแซมฮัตก็ชักชวนเอ็นคิดูเข้าเมืองและนำเขาไปรู้จักการใช้ชีวิตแบบชาวเมืองจนในที่สุด เอ็นคิดูก็หมดสภาพความป่าเถื่อนและกลายเป็นชาวเมืองโดยสมบูรณ์
วันหนึ่งขณะที่เอ็นคิดูกับแซมฮัตพำนักอยู่ด้วยกันกับเหล่าคนเลี้ยงแกะ พวกเขาก็ได้ข่าวว่า ราชากิลกาเมชกำลังจะเสด็จไปที่งานแต่งงาน งานหนึ่งเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในการนอนกับเจ้าสาวในคืนแรก ซึ่งเมื่อเอ็นคิดูทราบเรื่องก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขารีบตรงดิ่งไปที่งานและเข้าขัดขวางกิลกาเมชไม่ให้กระทำการอันน่าบัดสีนั้น
กษัตริย์หนุ่มทรงกริ้วที่มีผู้มาขัดขวาง พระองค์จึงเข้าต่อสู้กับเอ็นคิดูอย่างดุเดือดจนบ้านเรือนรอบข้างพังพินาศ ทว่าหลังจากทั้งสองขับเคี่ยวกันเป็นเวลานานต่างก็ไม่มีใครปราบใครลงได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้กิลกาเมชทรงประทับใจในพละกำลังของอีกฝ่าย พระองค์จึงได้ยุติการต่อสู้และขอให้เอ็นคิดูมาอยู่กับพระองค์ในฐานะพระสหาย
มิตรภาพทำให้กิลกาเมชเปลี่ยนไป กษัตริย์หนุ่มทรงเลิกพฤติกรรมร้ายกาจที่เคยทำจนหมดสิ้นและด้วยคำแนะนำของเอ็นคิดู พระองค์ได้หันมาใส่พระทัยกับการดูแลบ้านเมือง จนนครอูรุกเจริญรุ่งเรืองและประชาชนต่างพากันแซ่ซ้องสรรเสริญในคุณงามความดีของราชากิลกาเมช
ทว่าในขณะที่ประชาชนทั่วทั้งนครพากันมีความสุขภายใต้การปกครองของราชาหนุ่ม กิลกาเมชกลับเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายชีวิตที่สงบสุขนี้ พระองค์ปรารถนาที่จะแสวงหาความตื่นเต้นในชีวิต จึงได้ตรัสชวนเอ็นคิดูเดินทางไปยังป่าซีดาร์แห่งทิศตะวันตกเพื่อเผชิญหน้ากับอสูรฮูวาวา
เมื่อได้ยินดังนั้น เอ็นคิดูก็ส่ายศีรษะอย่างไม่เห็นด้วยกับความคิดของสหาย เขากล่าวเตือนกิลกาเมชว่า ”อสูรตนนี้สูงใหญ่เทียมฟ้า ลมหายใจของมันเป็นเปลวไฟที่นำมาซึ่งความตายอย่างน่าสยดสยอง อีกทั้งเทพเอนลิลยังประทานพละกำลังให้มันเพื่อเป็นผู้ปกป้องป่าซีดาร์แห่งทิศตะวันตก การเผชิญหน้ากับมันไม่ผิดอะไรกับการเดินเข้าหาความตาย”
“หากข้าชนะ ข้าจะได้รับเกียรติอย่างยิ่งใหญ่หรือหากข้าตายในการต่อสู้ครั้งนี้ ข้าก็ยังได้รับชื่อเสียงว่า เป็นผู้กล้าที่จะเผชิญหน้ากับจอมอสูรฮูวาวา ซึ่งนั่นคือการตายที่มีศักดิ์ศรี” กิลกาเมชตรัส ก่อนจะตำหนิ เอ็นคิดูว่า ไม่มีความกล้าหาญที่จะตายอย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งเมื่อถูกผู้เป็นสหายตำหนิดังนั้นแล้ว เอ็นคิดูจึงตัดสินใจที่จะร่วมเดินทางไปกับกิลกาเมชเพื่อเผชิญหน้ากับอสูรฮูวาวา
ทั้งสองออกเดินจากนครอูรุกโยปราศจากผู้ติดตามและหลังจากเดินทางเป็นเวลานับเดือนก็มาถึงเขตป่าซีดาร์ยักษ์ของอสูรฮูวาวา หลังจากนั้นพวกเขาก็ช่วยกันโค่นต้นซีดาร์ลงเพื่อท้าทายจอมอสูรให้ปรากฏตัว เมื่อฮูวาวารู้ว่ามีมนุษย์บุกเข้ามาโค้นต้นไม้ของมัน เจ้าอสูรก็ปรากฏกายขึ้นด้วยรูปร่างอันสูงใหญ่เทียมฟ้า เสียงคำรามของมันดังไปไกลทั่วผืนป่า ขณะที่ดวงตาแดงก่ำจ้องมองสองมนุษย์ผูอหังการ์
กิลกาเมชและเอ็นคิดูต่างรวมกำลังกันเข้าต่อสูกับฮูวาวาอย่างกล้าหาญ การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดและรุนแรง จนในที่สุด กิลกาเมชก็สามารถสังหารฮูวาวาลงได้ ด้วยการทิ่มดาบลงบนเท้าอันมหึมาของจอมอสูรจนมันถึงกับทรุดลง จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปเหยียบบ่าและใช้ดาบตัดหัวของอสูรร้ายขาดกระเด็น ร่างมหึมาที่ไร้ศีรษะของฮูวาวาล้มครืนราวภูเขาถล่มทลาย
เมื่อสังหารจอมอสูรลงได้แล้ว กิลกาเมชกับเอ็นคิดูก็ช่วยกันโค่นป่าซีดาร์จนราบเรียบ ชัยชนะในครั้งนี้ส่งผลให้ชื่อเสียงของทั้งคู่เลื่องลือระบือไกล จนแม้ทวยเทพบนสรวงสวรรค์ก็ยังรับรู้
ในยามนั้น เทพีอิชตาร์ เทพีแห่งความงาม ความรัก สงคราม และตัณหา ทรงได้ยินเรื่องราวของกิลกาเมช พระนางจึงเสด็จลงมาเพื่อทอดพระเนตรราชาหนุ่มและเมื่อได้เห็นแล้ว องค์เทพีก็บังเกิดความเสน่หาในตัวกิลกาเมช พระนางจึงมาปรากฏองค์ต่อหน้าเขาและขอให้เขาเสกสมรสกับพระนางโดยทรงยื่นข้อเสนอว่าจะมอบอำนาจอันยิ่งใหญ่ให้กับเขาเป็นการตอบแทน ทว่ากิลกาเมชกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย ทั้งยังตรัสกับเทพีด้วยว่า เขารู้ดีว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างกับอดีตคู่รักของพระนาง ยามเมื่อพระนางสิ้นรักแล้ว และเขาไม่ปรารถนาจะเป็นเช่นนั้น
เทพีทรงโกรธและอับอายที่ถูกปฏิเสธซึ่งหน้า จึงเสด็จไปเข้าเฝ้าเทพอนู พระบิดาของพระนางเพื่อขอให้ลงโทษมนุษย์โอหังผู้นี้ “กิลกาเมชทำให้ข้าได้รับความอับอายยิ่งนัก ขอพระบิดาได้โปรดส่งกระทิงสวรรค์ไปสังหารมันและทำลายนครของมันให้พินาศสิ้นด้วยเถิด และหากพระบิดามิทรงยอมตามที่ลูกร้องขอ ลูกจะไปทลายประตูนรกเพื่อปลดปล่อยเหล่าผีร้ายให้ขึ้นมาย่ำยีมวลมนุษย์”
มื่อทรงได้ฟังคำขอของพระธิดาแล้ว เทพอนูจึงส่งกระทิงสวรรค์ลงมาเพื่อสังหารกิลกาเมชและทำลายนครอูรุก โดยในทันทีที่กระทิงสวรรค์เหยียบลงบนแผ่นดินอูรุก เพียงครั้งแรกที่มันพ่นลมหายใจออกมา ก็เกิดแผ่นดินแยกและสูบเอาทหารของกิลกาเมชลงไปถึง 100 คน และเมื่อมันพ่นลมหายใจครั้งที่สองก็ทำให้ทหารถูกสูบลงไปอีก 500 คน และในการพ่นลมหายใจครั้งที่สาม เอ็นคิดูก็พลัดตกลงไปในรอยแยกของแผ่นดิน
ทว่าชายหนุ่มสามารถปีนกลับขึ้นมาได้และพุ่งเข้าจับเขาของกระทิงสวรรค์เอาไว้ พร้อมกับร้องบอกให้กิลกาเมชใช้ดาบแทงเข้าไปยังจุดตายที่อยู่ระหว่างเขาและคอของมัน กษัตริย์หนุ่มใช้ดาบแทงเข้าไปตามที่สหายร้องบอกและกระทิงสวรรค์ก็สิ้นชีพลงในทันที
ความอหังการ์ของสองสหาย ทำให้เหล่าเทพตัดสินใจให้บทเรียนที่สำคัญแก่กิลกาเมช
โดยบันดาลให้เอ็นคิดูล้มป่วยและเสียชีวิตลง
ความตายของสหายทำให้กิลกาเมชเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เขาจมอยู่กับความทุกข์เป็นเวลานาน ทั้งยังเกิดความหวาดหวั่นสิ่งหนึ่งขึ้นภายในใจ นั่นคือ ความหวาดหวั่นว่า วันหนึ่ง พระองค์จะต้องสิ้นชีวิตลงเช่นเดียวกับสหาย
ในที่สุด กิลกาเมชจึงตัดสินพระทัยหาวิธีที่จะทำให้พระองค์ไม่ต้องตาย โดยออกเดินทางไปยังต้นน้ำแห่งแม่น้ำทั้งมวลของโลก เพื่อค้นหา อุชนาปิชติม มนุษย์ผู้รอดตายจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลกและได้รับพรจากเทพเจ้าให้เป็นอมตะ
กิลกาเมชออกเดินทางเพียงลำพังและเผชิญหน้ากับสิ่งแปลกประหลาดมากมาย เช่น มนุษย์แมงป่องยักษ์ที่น่ากลัวสองตนที่ทำหน้าที่เฝ้าหนทางสู่โลกใต้พิภพ มนุษย์แมงป่องทั้งสองรู้ว่า กิลกาเมชมีสายเลือดของเทพเจ้าอยู่ในตัวโดยกล่าวว่า “ท่านมีความเป็นเทพอยู่สองในสามส่วน มีความเป็นมนุษย์อยู่หนึ่งในสามส่วน” และเมื่อพวกมนุษย์แมงป่องรู้ถึงความตั้งใจของกิลกาเมช พวกนั้นก็เอ่ยเตือนเขาถึงอันตรายที่รออยู่ข้างหน้า แต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยให้เขาเดินทางต่อไป
หลังเดินทางผ่านดินแดนแห่งความมืดแล้ว กิลกาเมชก็มาถึงหุบเขาแห่งแสงสว่างและสวนพฤกษาแห่งอัญมณีซึ่งต้นไม้ทุกต้นมีผลเป็นอัญมณีเลอค่า จากนั้นกิลกาเมชก็ไปถึงยังฝั่งทะเลแห่งมรณะและเมื่อข้ามพ้นทะเลแห่งนั้น เขาก็ได้พบกับอุชนาปิชติม
ซึ่งอุชนาปิชติมบอกกับกิลกาเมชว่า “ความตายเป็นสิ่งที่มนุษย์หลีกเลี่ยงไม่พ้น เพราะเหล่าเทพเจ้ามีประสงค์ให้ชีวิตมนุษย์เป็นเพียงสิ่งชั่วคราว” แต่กิลกาเมชก็ยังคงดึงดันที่จะเป็นอมตะ อุชาปิชติมจึงเล่าถึงเหตุการณ์น้ำท่วมโลกและกล่าวถึงการที่เทพเจ้าสั่งให้ตนต่อเรือช่วยสิ่งมีชีวิตบนโลกให้รอดตาย จากนั้นจึงได้รับพรจากเทพเจ้าให้เป็นอมตะ
อย่างไรก็ตาม ในที่สุด อุชนาปิชติมก็ทนการอ้อนวอนของกิลกาเมชไม่ไหว เขาจึงบอกให้กิลกาเมชดำน้ำลงไปต้นมหาสมุทร ณ จุดสิ้นสุดของโลก เพื่อนำเอาต้นไม้แห่งการกลับคืนสู่ความหนุ่มสาวขึ้นมา กิลกาเมชทำได้สำเร็จและดีใจมาก
เขาตั้งใจจะนำต้นไม้นี้กลับไปทดลองกับคนชราที่เมืองอูรุก ทว่าระหว่างเดินทางกลับ งูตัวหนึ่งได้มาขโมยต้นไม้ต้นนั้นไป ทำให้เหล่างูทั้งหลายสามารถลอกคราบเพื่อกลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาวได้อีกครั้ง
แม้กิลกาเมชจะผิดหวังกับความพยายามที่สุดท้ายก็สูญเปล่าของตน แต่ในที่สุด เขาก็ได้เข้าใจถึงสัจจะธรรมของชีวิตและยอมรับชะตากรรมของชีวิตโดยไม่คิดดิ้นรนเป็นอมตะอีกต่อไป จากนั้นกิลกาเมชก็สั่งให้ขุนนางจารึกเรื่องราวการเดินทางของพระองค์ไว้ที่ฐานของประตูเมืองและกลายเป็นตำนานที่เล่าขานมานานนับพันปี กล่าวขานสืบมาและเป็นอมตะในความทรงจำของคนรุ่นต่อมา สืบมาจนกระทั่งถึงวันนี้
Hatsune Miku
Hatsune Miku
ในปี ค.ศ. 2000 บริษัท Yamaha ได้ริเริ่มพัฒนาโครงการที่มีชื่อว่า “Vocaloid” ซึ่งเป็นโปรแกรมเสียงสังเคราะห์ โดยที่ศิลปินสามารถใช้สร้างเสียงร้องให้กับงานดนตรีของตนเองได้ โดยในระยะแรก Vocaloid ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
จนถึงปี ค.ศ. 2007 โปรแกรม Vocaloid 2 ก็ได้ถือกำเนิด ด้วยความสามารถที่เพิ่มขึ้น และการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Hatsune Miku ซึ่งเป็น Vocaloid 2 ที่มีเสียงสังเคราะห์ของสาวน้อย
komkid.com มุมดนตรี ตอนที่ 6 ขอพาท่านไปรู้จักกับ Hatsune Miku สาวน้อยที่เชื่อมโยงความคิด และความฝันของผู้คนในโลกใบนี้ เข้าหากัน
Hatsune Miku เป็นโปรแกรม Vocaloid 2 ที่พัฒนาโดยบริษัท Crypton Future Media ถือกำเนิดในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2007 ชื่อของเธอนั้นมาจาก 3 คำ คือ (初 hatsu) แปลว่า ครั้งแรก, (音 ne) แปลว่า เสียง และ (Miku (ミク) แปลว่า อนาคต โดยเป็น Vocaloid 2 ญี่ปุ่นตัวแรก
ต้นแบบเสียงของ Hatsune Miku ได้มาคุณ Saki Fujita ซึ่งเป็นนักพากย์หญิงญี่ปุ่นที่มีผลงานมากมาย ได้แก่ เสียงของ Mahiru Inami จากเรื่อง Working!! (ค.ศ. 2010 และ 2011), เสียงของ Ruri Hijiribe จากเรื่อง Durarara!! (ค.ศ. 2010), เสียงของ Mina Yayoi จากเรื่อง Tokimeki Memorial Only Love (ค.ศ. 2006) เป็นต้น
PlayStation 4
PlayStation 4
โซนี่ (Sony) เปิดตัว PlayStation 4 เครื่องเกมคอนโซลยุคใหม่ รวมการเล่นเกมกับโซเชียลเน็ตเวิร์กเข้าไว้ด้วยกัน กราฟิกสมจริง แชร์ภาพระหว่างเล่นได้ เริ่มวางจำหน่าย 15 พ.ย.นี้
หลังจากที่โซนี่ได้วางจำหน่ายเครื่องเกม PlayStation 3 (PS3) เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2006 นับเป็นเวลามากกว่า 6 ปีแล้ว และได้ถึงเวลาแล้วที่โซนี่จะเปิดตัว PlayStation ยุคใหม่เสียที ซึ่งจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก PlayStaion 4 (PS4) นั่นเอง
ล่าสุด โซนี่ได้เปิดตัวเครื่องเกม PlayStation 4 ในงาน E3 2013 โดยทางโซนี่ได้เปิดเผยรายละเอียดต่าง ๆ ออกมาอย่างจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพและสเปคของตัวเครื่อง ฟีเจอร์ต่าง ๆ , อุปกรณ์ และซอฟต์แวร์เกม รวมทั้งราคาและกำหนดการวางจำหน่าย
หลังจากที่โซนี่ได้วางจำหน่ายเครื่องเกม PlayStation 3 (PS3) เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2006 นับเป็นเวลามากกว่า 6 ปีแล้ว และได้ถึงเวลาแล้วที่โซนี่จะเปิดตัว PlayStation ยุคใหม่เสียที ซึ่งจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก PlayStaion 4 (PS4) นั่นเอง
ล่าสุด โซนี่ได้เปิดตัวเครื่องเกม PlayStation 4 ในงาน E3 2013 โดยทางโซนี่ได้เปิดเผยรายละเอียดต่าง ๆ ออกมาอย่างจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพและสเปคของตัวเครื่อง ฟีเจอร์ต่าง ๆ , อุปกรณ์ และซอฟต์แวร์เกม รวมทั้งราคาและกำหนดการวางจำหน่าย
PlayStation 4 เป็นเครื่องเล่นเกมที่นำเอาความเป็น Social Media มาผสมผสานกับการเล่นเกม โดยเกมเมอร์แต่ละคนจะมีหน้าโปรไฟล์เป็นของตนเองที่จะแสดงกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กำลังเล่นเกมอะไรอยู่, เคยเล่นเกมอะไรมาบ้าง, เคยแชร์ภาพหรือวิดีโอขณะเล่นเกมอะไรไว้บ้าง, รวมทั้งรายการ Trophy (คล้ายกับระบบ Achievement ของแพลตฟอร์มอื่น) และรายชื่อเพื่อน ฯลฯ ซึ่งเนื้อหาเหล่านี้ผู้เล่นคนอื่น ๆ จะสามารถเข้ามาเยี่ยมชมและคอมเม้นท์ได้ รวมทั้งสามารถส่งข้อความหากันเพื่อพูดคุยสอบถามเทคนิคการเล่นเกม หรือจะชวนให้มาเล่นเกมด้วยกันก็ยังได้
Nintendo Switch
Nintendo Switch
ในคลิปเปิดตัวนี้เผยให้เห็นความน่าสนใจในการเล่นเกมของ Nintendo SWITCH หลายๆ อย่างด้วยกัน ตั้งแต่การเล่นในโหมดของเกมคอนโซล ที่ตัวเครื่องจะติดตั้งกับแท่นด็อคที่ดูแล้วจะเห็นช่องสำหรับต่อจอยคอนโทรลเลอร์แบบมีสายของ Wii ได้โดยในโหมดของเกมคอนโซล ตัวคอนโทรลเลอร์ที่ใช้จะมี 2 แบบคือ แบบที่สามารถถอดแยกออกเป็น 2 ชิ้นเพื่อมาประกบกับตัวหน้าจอ มีชื่อเรียกว่า Joy-Con L และ Joy-Con R เอามาประกอบกับตัว Joy-Con Grip และคอนโทรลเลอร์แบบ Pro ที่เน้นเล่นเกมหนักๆ
หัวใจสำคัญของการปรับเปลี่ยนโหมดการเล่นของ Nintendo SWITCH คือเจ้าคอนโทรลเลอร์ Joy-Con L และ Joy-Con R ที่เอามาประกบกับส่วนหน้าจอของเครื่อง ที่มันปรับเปลี่ยนการบังคับเกมได้หลากหลายมาก ตั้งแต่โหมดการเล่นแบบคนเดียว ก็คือติดกับตัวหน้าจอ หรือจะถอดออกมาเป็นจอยไร้สายแล้วถือแยกคนละชิ้นแล้วตั้งจอไว้บนโต๊ะ (ตัวเครื่องมี Kickstand ให้มาในตัว) หรือถ้าจะเล่น 2 คนก็แบ่งชิ้นส่วน Joy-Conให้คนละอัน ก็จะใช้แกนอนาล็อกสำหรับบังคับทิศทาง และมีอีก 4 ปุ่มสำหรับเล่น สำหรับเล่นบังคับเกมที่แข่งขันกันได้ (ในคลิปมาสาธิตเป็นเกมขับรถ Mario Kart)
นอกจากนี้ยังใช้เล่นในแบบมัลติเพลยเยอร์ 4 คนได้ โดยใช้ Nintendo Switch 2 เครื่องแบ่งจอยกันเล่น 4 คน โดยทั้ง 2 จอก็จะเชื่อมต่อเกมเข้าด้วยกัน รวมไปถึงการเล่นแบบ 8 Players ก็ทำได้ด้วยเช่นกัน ที่เชื่อได้เลยว่าจะมีเกมล่าแย้ Monster Hunter มาลงให้อย่างแน่นอนในอนาคต และตัวเครื่องระบบการแสดงผลต่างๆ ก็พร้อมสำหรับเล่นแข่งขันเป็นแมทช์ขนาดใหญ่ เราอาจจะได้เห็นการแข่งขันแบบ E-Sport ของ Nintendo SWITCH ก็เป็นได้
ในตอนนี้ทาง Nintendo เองยังไม่ได้เผยข้อมูลทางด้านเทคนิคของตัวเครื่อง นอกจากที่จะเห็นได้ในคลิป มีอีกอย่างที่ยืนยันได้ก็คือ Nintendo SWITCH ตัวเกมจะใช้เป็นตลับเกมที่ลักษณะดูเหมือนกับของ 3DS ส่วนเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยอย่างเช่น สเปคของตัวเครื่อง, การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นๆ, เกมแบบดาวน์โหลด, การรองรับเกมเก่าๆ, การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ฯลฯ ซึ่งคิดว่าทาง Nintendo จะทยอยปล่อยออกมาอีกในเร็วๆ นี้ แต่ที่แน่นอนก็คือกำหนดวันวางจำหน่ายจะเริ่มขายกันในเดือนมีนาคม 2017 ที่จะถึงนี้
Monday, June 24, 2019
Subscribe to:
Posts (Atom)